ดาโต๊ะ โจจี้ ซามูเอล (DATO’ JOJIE SAMUEL)
เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย มารียะห์ ขัตติยะอารี บรรณาธิการกิตติมศักดิ์
ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างมาเลเซียกับไทย
เริ่มต้นอย่างเป็นทางการหลังจากที่มาเลเซียได้รับเอกราชเมื่อ31สิงหาคม 2500 ช่วงเวลา 62 ปีที่ผ่านมาทั้งสองประเทศมีสนธิสัญญา
ความร่วมมือ พันธกิจและข้อตกลงด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ในโอกาสดังกล่าว BML
ได้รับเกียรติจาก ดาโต๊ะ โจจี้ ซามูเอล (DATO’ JOJIE SAMUEL) เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย
เข้าพบและสัมภาษณ์พิเศษถึงแนวทางและนโยบายด้านต่างๆ
เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ในฐานะเอกอัคราชทูต ภารกิจที่สำคัญคือ
การเชื่อมโยงและกระชับความสัมพันธ์ของผู้คนทั้งสองประเทศให้ดียิ่งขึ้น
เพราะมีประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกันมาอย่างยาวนาน
ขณะเดียวกันยังมีภารกิจเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน
มีการสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีให้มากขึ้น บนหลักการที่เรียกว่า “พันธมิตรแห่งความหวัง”
พัฒนาหลากหลายมิติตามแนวทางSDGs
นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
โดยยึดถือสนธิสัญญาหรือข้อตกลงของอาเซียนเป็นหลักสำคัญ
เพื่อให้เกิดการพัฒนาในหลายมิติตามที่ตั้งเป้าหมายร่วมกัน
กอปรกับการมีเป้าหมายที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับนานาชาติหรือ “SDGs” (Sustainable
Development Goals /2030) เพื่อขจัดความยากจน ,
ส่งเสริมคุณภาพชีวิต, การศึกษา, ความเท่าเทียมทางเพศ
ร่วมมือกับไทยเพื่อบรรลุป้าหมาย
จากการที่ไทยจะขึ้นเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ มาเลเซียจะทำงานร่วมกับไทยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้งของASEAN และ
SDGs ตลอดจนการเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ
อันจะนำมาซึ่งรากฐานความเจริญทางเศรษฐกิจ
สังคม การเมือง ซึ่งในมุมมองเห็นว่า
ภูมิภาคนี้มีอนาคตที่ดี ดังนักคิดนักเขียนจากหลายองค์กรยกย่องว่า ASEAN เป็นดั่ง “ปาฏิหาริย์”
ในการสร้างความเจริญก้าวหน้าของภูมิภาค
ไทย –มาเลเชีย-ASEANตัวอย่างความร่วมมือ
ตัวอย่างความสัมพันธ์ของไทย-มาเลเซีย-ASEAN ที่ทำงานร่วมกันในหลายๆด้าน
เพื่อสร้างความเจริญ
ความมั่นคงตามเป้าหมายร่วมกันและยึดแนวทางตามมติสหประชาติ น่าจะเป็นตัวอย่างความร่วมมือที่ดีให้กับประชาคมโลกได้โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ-การลงทุน
ในลักษณะการค้าแบบอิสระและยุติธรรมหรือ free and fair trade ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของประชาคมASEANตั้งแต่เริ่มจัดตั้ง
To love Malaysia is to know Malaysia
ทางด้านการท่องเที่ยวนั้น มาเลเซียมีนโยบายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้าไปท่องเที่ยวในมาเลเซียเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจากไทย โดยนำคอนเซ็ปต์
“To love Malaysia
is to know Malaysia” หรือ “
อยากรู้จักมาเลเซีย ก็ต้องมาสัมผัสมาเลเซีย ”
มาเป็นสิ่งจูงใจ รวมทั้งเปิดเที่ยวบินใหม่เช่น กรุงเทพฯ –
รัฐซาบะฮ์ รัฐซึ่งมีเนื้อที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวไทยได้รู้จักคาบสมุทรมลายูมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อปี ค.ศ.2017 มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวที่มาเลเซียประมาณ
1.8 ล้านคน ทั้งยังมีนโยบายเพิ่มจำนวนนักศึกษาไทยเข้าไปศึกษาในมาเลเซียด้วย
Malaysia’s truly ASIA
ท่านนายกรัฐมนตรี
ตุนมหาเธร์ มีนโยบายชัดเจนในการยอมรับและต้องการความร่วมมือจากประชาชน ทุกภาคส่วน
ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา เพื่อสร้างชาติและผลักดันให้ประเทศเจริญก้าวหน้าอย่างมีเอกภาพ
ศักยภาพ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของคำว่า “Malaysia’s
truly ASIA” หรือ “มาเลเซียมีความเป็นเอเชียโดยแท้” ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากความสามัคคี
ปรองดองและเป็นหนึ่งเดียวของชาติ
“เมื่อเราสามารถเข้าใจพื้นฐานของความแตกต่างและยอมรับกันได้
ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
จึงมีเอกภาพและตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ทุกคนมีความเสมอภาค เคารพซึ่งกันและกัน ทั้งหมดจึงเป็นเบ้าหล่อหลอมวัฒนธรรมของมาเลเซียซึ่งเป็นพลังสำคัญของชาติ
โดยทั้งหมดนั้นคือ เอกลักษณ์ของมาเลเซีย”