ในช่วงวัยเด็กทุกคนล้วนมีความฝันเป็นของตัวเอง บางคนเปลี่ยนแนวคิดและเส้นทางเดินเมื่อเติบโตขึ้น แต่บางคนสามารถต่อเติมความฝันของตนเองจนประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับ “กัปตันไฟซอล พิศลย์ มีแก้ว” ความฝันในการเป็นนักบินของเขามีจุดเริ่มต้นจากความชอบและต้องการตามรอยบิดาที่เป็นนักบิน หลังจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ระดับปริญญาตรีและโท จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขาต่อเติมเส้นทางฝันโดยเป็นนักเรียนทุนของการบินไทยเมื่อปี 2003 จากนั้นได้เป็นนักบินสมใจ เมื่อปี 2005
ช่วงระยะเวลา 11 ปี เขาได้บินกับเครื่อง Boeing737 Airbus 330 และ340 ทั้งยังเป็นครูสอน simulator นักบินใหม่ โดยเส้นทางที่ไกลที่สุดคือ ลอสแองเจลิส-กรุงเทพ แบบนอนสต็อป 17 ชั่วโมง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนักบินที่1 หรือผู้บังคับอากาศสายการบินไทยสมายล์ บริษัทลูกของการบินไทย อาชีพนักบินเป็นอาชีพที่ต้องทำงานภายใต้ภาวะความกดดันทั้งความเสี่ยง สภาพแวดล้อมที่ต้องทำงาน ที่เน้นความปลอดภัย เหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่เขาก็ยังเลือกที่จะทำงานในสถานะนักบินด้วยเหตุผลที่ว่า อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ดี สุจริต ได้รับการยอมรับ และได้เดินทางค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆตลอดเวลา
“นักบินเป็นอาชีพที่ต้องเตรียมความพร้อมและต้องเรียนรู้เสมอ มีระเบียบวินัย ต้องควบคุมอากาศยานที่มีมูลค่าสูง ที่สำคัญต้องอยู่กับความปลอดภัยของคน อาชีพนี้ให้ทุกอย่างกับเราได้ ให้เราได้เห็นคน ให้เราได้เห็นความแตกต่างด้านเชื้อชาติ ศาสนา การเดินทาง ประสบการณ์การชีวิตที่หลากหลาย ผมเป็นมุสลิม ผมก็ได้ไปเห็นมุสลิมในที่ต่างๆ”
แม้ต้องแบกภาระกิจยิ่งใหญ่ต่างๆไว้ แต่ห้องทำงานของพวกเขาน่าจะเป็นห้องทำงานที่มีขนาดเล็กที่สุด ต้องใช้เวลาในห้องนั้นตลอดการทำงาน สภาวะปัญหาหรือเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รับรู้ แต่ถึงกระนั้นกัปตันไฟซอล ก็ไม่เคยละเลยต่อการประกอบศาสนกิจอย่างเช่นการละหมาด แม้ว่าจะมีช่วงเวลาพักเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ในช่วงเดือนรอมฏอน หากบินในระยะใกล้เขาก็พร้อมที่จะถือศีลอดอย่างเคร่งครัด ส่วนการบินในระยะไกล ก็จะพิจารณาว่าหากร่างกายเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเมื่อถือศีลอด แล้วเกิดภาวะไม่ปกติกับร่างกาย จนส่งผลกับการควบคุมการบิน เขาก็จะถือศีลอดชดเชยในช่วงหลังการบินแทน
ด้วยประสบการณ์ใหม่ๆที่ต้องพบตลอดเวลา กัปตันไฟซอลไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป สิ่งที่เขาไขว่คว้าเป็นอันดับแรกๆของการได้แวะพักตามสถานที่ต่างๆทั่วโลก ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นมัสยิดประจำถิ่น ที่หากมีโอกาสเมื่อใดก็ต้องเข้าไปละหมาดและสัมผัสกับบรรยากาศกับบ้านของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ในพื้นที่นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี รวมทั้งประเทศในตะวันออกกลาง แม้กระทั่งการทำอุมเราะฮฺ
“เราสามารถทำอิบาดะฮ์ได้ ไม่ว่าเราจะประกอบอาชีพอะไรเพราะเราเป็นมุสลิม หนึ่งในเสาหลักของศาสนาคือ การละหมาด มีคนเคยถามว่าขับเครื่องบินแล้วจะละหมาดได้อย่างไร จริงๆแล้วเราก็มีเวลาพัก ผมก็ใช้เวลาพักละหมาด การถือศีลอดทางศาสนาก็เปิดกว้างไว้ชัดเจน ผมก็จะพิจารณาตามเที่ยวบินว่าใกล้หรือไกล”
สำหรับ กัปตันไฟซอลเอง มีความเชื่อมั่นเสมอมาว่า ณ เวลานี้ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้กำหนดให้เขามาอยู่ในจุดสูงสุดแล้วคือการเป็นนักบิน ในอนาคตเขาต้องการเป็นครูการบินเพื่อตอบแทนต้นสังกัด ตอบแทนสังคมมุสลิมโดยทำหน้าที่แนะนำรุ่นน้องมุสลิมที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักบิน
สุดท้ายกัปตันไฟซอลอยากฝากแก่ผู้อ่าน Berita Muslim Life ทุกคนว่า “Do your best, Allah will do the rest. Indeed All is with the patient”